[x] ปิดหน้าต่างนี้
 

 

  
ครูอารีย์พาเรียนประวัติสุนทรภู่
โดย : ครูอารีย์   เมื่อวันที่ : จันทร์ ที่ 15 เดือน มกราคม พ.ศ.2567   


โอย... ลมทะเลแกล้งอีกแระ! พุ่งโฉ่หน้ามาตั้งแต่ขี่มอเตอร์ไซค์เก่า ๆ คู่ชีวิตคันนั้นออกจากหน้าวัดลาวา บรรยากาศระยองวันนี้เหมือนจะซู่ซ่าไม่แพ้แกงป่าร้อน ๆ ที่เพิ่งซัดลงท้องเลยนะ (หัวเราะ) วันนี้ครูอารีย์มีภารกิจสำคัญ นั่นคือปลุกวิญญาณ "สุนทรภู่" ของเหล่าลูกนักเรียนชั้น ม.5 ให้ลุกโชน!

ก่อนเข้าห้อง ก็แอบได้ยินเสียงซุบซิบกัน "ครูอารีย์จะสอนสุนทรภู่เรอะ เหงื่อตกแย่!" บอกเลย โหย่อน่ะไม่ได้ เด็กสมัยนี้มองบทกลอนบทละครโบราณอย่างกับนั่งเกวียนไปอยุธยา แต่เดี๋ยวครูจะพาตะลุยไปให้สนุกจนลืมดูนาฬิกาไปเลย!

เปิดฉากด้วยลีลาแม่โชว์! หยิบกลอนนิราศภูเขาทองมาท่องให้ฟังเสียงใส พาเด็ก ๆ ล่องลอยไปกับพระจันทร์ส่องยอดภูเขาทอง เหน็ดเหนื่อยกับการเดินขึ้นเขา แฮ่ก ๆ แล้วก็ร้อง "โอ้ อกเอ๋ย อกใจจะแตกไย" ซะให้ฮือฮา

แต่ครูรู้ว่าเสียงกลอนเปล่า ๆ มันคงจับใจยาก เลยหยิบเอาวิทยุทรานซิสเตอร์คู่กายมาเปิดเพลงลูกกรุงเก่า ๆ เพลงรักหวานซึ้งแบบ "นัดพราน" หรือ "ลาวา" ดังก้องห้อง เพลงมันจะพาบทกวีบินไปอีกมิติ ช่วยให้เด็ก ๆ ซึมซับความรู้สึกของหนุ่มสาวในนิราศ

แล้วไหนจะแผนลับอีกชั้น เอาภาพถ่ายสถานที่จริงในนิราศภูเขาทองมาโชว์ พาเด็ก ๆ เห็นเจดีย์ทรงจีนสีขาวโพลน เหมือนที่สุนทรภู่บรรยายไว้เป๊ะ "งามวิจิตร อร่ามเรือง ดั่งแก้วผลึก" เด็ก ๆ เบิกตาโพลงเลยนะ บอก "ครู! หนูอยากไปเที่ยวภูเขาทองบ้าง" โดนใจไปเป๊าะ!

ครูยังไม่หยุดแค่นั้นนะ จัดฉากจำลองขึ้นมาเลยจ้า ฉากวัดเจดีย์ วัดพระแก้ว ยกป่าพงมาไว้กลางห้อง พร้อมพร็อพผ้าขาวม้า เสี้ยวกระจก กระดิ่ง ให้นักเรียนแต่งตัวเป็นตัวละครในนิราศ ลองท่องบทกลอนประชันกัน อู้ย! สนุกสนานไม่แพ้เล่นละครเวทีเลยนะ

บอกเลย สิ้นคาบ ม.5 กลายเป็นกวีรุ่นจิ๋วไปชั่วโมง! เด็ก ๆ เดินร้องกลอน "เอย อกเอ๋ย อกอีแอบ" กันงึมงำ หน้าตาครึ้ม ๆ เหมือนกำลังแต่งนิราศของตัวเอง ครูเห็นแววตาใส ๆ ที่อยากเรียนอยากรู้แบบนี้แล้วหายเหนื่อยเลย

เย็น ๆ กลับวัด ลานวัดพัดลมโกรกเย็นยะเยือก นั่งล้อมวงกับหม้อแกงป่าร้อน ๆ ที่หลวงตาต้มท่านแกงไว้ให้ กลิ่นหอมพริกแก้ว ขิง ขมิ้น อบอวล เผ็ดซี้ดจนน้ำตาไหล แต่ก็หยุดกินไม่ได้

นั่งคุยกับหลวงตา แกเล่าสมัยเด็ก ๆ ท่านก็เคยรำลึกถึงสุนทรภู่ นั่งแต่งกลอนเล่นอยู่ใต้โบสถ์ ครูฟังเพลินเลย บอกกับตัวเองว่า ครูเองก็ต้องเป็นแบบนั้น ช่วยปลูกฝังให้เด็ก ๆ รักภาษา รักวรรณคดี อย่าให้บทกวีเก่า ๆ กลายเป็นเพียงแค่ตำนานที่เล่าลือ

วันนี้เป็นวันที่ดีอีกวัน เหนื่อยหน่อย แต่มันคุ้มค่า แสงตาลุกวาวของเด็ก ๆ เป็นรางวัลที่ดีที่สุดแล้ว พรุ่งนี้ ครูอารีย์พร้อมไปตะลุยบทละครเรื่องอื่นของสุนทรภู่ต่อ เด็ก ๆ รอกลุ้นกันได้เลยว่าจะเป็นเรื่องอะไร! เอ้า! นอนเร็ว ๆ พรุ่งนี้ไปปลุกวิญญาณกวีกันต่อ!

เข้าชม : 5603


ความคิดเห็นที่ 1
จันทร์ ที่ 15 เดือน มกราคม พ.ศ.2567 เวลา 14:38:15
อรุณรุ่งโรยสาดแสงระยอง ปลุกครูอารีย์ให้ตื่นพร้อมภารกิจสุดท้าทาย! วันนี้ต้องปลุกวิญญาณ "อิเหนา" ให้ลุกโชนในดวงใจนักเรียนชั้น ม.6 ที่มองนิราศโบราณเหมือนมองดาวบนฟ้าไกลโพ้น! แต่ช้าก่อน! ครูอารีย์มีอาวุธลับมาเพียบ!

ขี่ซิ่งมอเตอร์ไซค์คู่ใจคู่กาย คันเก่าแต่เสียงเครื่องเร้าใจพาฝ่าลมทะเลมาถึงโรงเรียน "ว๊าบ!" กลิ่นหอมแกงหมูชะมวงจากโรงครัวโชยมาทักทาย ช้อนตักคำสองคำเติมพลัง เกินร้อยไปเลย! เข้าห้องปุ๊บ ไม่พูดพร่ำ! หยิบกลอน นิราศอิเหนา มาขับเสียงใส พาเด็ก ๆ ล่องลอยไปกับสายลมพายุที่พัดนางบุษบาหายไป เสียงคร่ำครวญของอิเหนาแทรกอยู่ในบทกลอน ชวนขนลุกซู่

แต่บทกลอนเปล่า ๆ คงเอาอยู่ยาก ครูอารีย์คว้าโทรศัพท์คู่ใจ เปิดเพลง "ลมหอบนางบุษบา" เสียงหวานซึ้งของวงสุเทพฯ ดังก้องห้อง บทเพลงกลายเป็นสายลมพาเด็ก ๆ เข้าไปสิงสถิตในโลกของอิเหนา บอกเลย อินเนอร์มาเต็ม!

เห็นแววตาละห้อยเริ่มสนใจ ครูอารีย์ตอกตะลุยต่อ! ยกภาพวาดสีน้ำโบราณของนางบุษบา ภาพพระราชวังอินทร์ปราณีมาโชว์ พาเด็ก ๆ ไปชมความวิจิตรอลังการที่สุนทรภู่บรรยายไว้ "งามวิจิตร พิศรรย์รุ่ง ดั่งท้องฟ้า ส่องแสงสายัณห์" เด็ก ๆ อ้าปากค้าง บอก "ครู! นางบุษบาสวยจัง" โดนใจไปอีกดอก!

ยังไม่หมด! ครูอารีย์จัดฉากจำลอง! เอาผ้าสีทองปูพื้นเป็นท้องพระวิมาน สร้างบัลลังก์ให้เด็ก ๆ แต่งตัวเป็นอิเหนา นางบุษบา ท่ามกลางเสียงเพลง "โอ้ลมแดงแสงแดดจะแผดส่อง" ให้ท่องบทประชันกัน โอย! สนุกสนานไม่แพ้ประกวดนางงาม! บอกเลย ห้องเรียนกลายเป็นเวทีละครไปชั่วโมง

หมดคาบ ปรากฏการณ์น่าทึ่ง! ม.6 กลายเป็นกวีรุ่นใหม่! เดินร้องกลอน "จะหาบุษบา ไปทั่วทิศา..." กันงึมงำ หัวเราะคิกคักเหมือนกำลังแต่งนิราศของตัวเอง ครูอารีย์เห็นแววตาสดใสแบบนี้ น้ำตาซึมเลย! นี่แหละคือรางวัลที่ดีที่สุด

เย็น ๆ กลับบ้าน บรรยากาศทะเลสงบเย็น นั่งกินข้าวกับครอบครัว แกงหมูชะมวงที่เหลือวันนี้ กลายเป็นกับข้าวที่อร่อยที่สุด พูดคุยกันถึงเรื่องราวอิเหนาที่สอนวันนี้ เด็ก ๆ เล่าต่อยอด ต่อยอด บอกครูว่า อยากให้ครูเล่าเรื่องอื่นของสุนทรภู่ต่ออีก

คืนนี้ ก่อนเข้านอน นอนรอยยิ้มของเด็ก ๆ ภาพห้องเรียนที่กลายเป็นวิมาน บทกลอนที่ดังก้องอยู่ในหัว บอกกับตัวเองว่า ครูอารีย์จะทำแบบนี้ต่อไป จะเป็นสะพาน เชื่อมเด็ก ๆ กับโลกวรรณคดีโบราณ จะไม่ให้บทกวีเหล่านี้กลายเป็นเพียงแค่ตำนาน

พรุ่งนี้ ตะลุยเรื่องอะไรดีนะ? อุ้ย! อย่ามัวฝันนัก ครูอารีย์... ไปนอนเตรียมสรรพาวุธก่อนดีกว่า พรุ่งนี้ เด็ก ๆ รอเราปลุกวิญญาณกวีอยู่นะ!

เอ้า! นอนเร็ว ๆ เรียนวรรณคดีกับครูอารีย์ สนุกกว่านอนฝันอีกนะ!
โดย : ครูอารีย์    ไอพี : 101.109.239.236


ความคิดเห็นที่ 2
จันทร์ ที่ 15 เดือน มกราคม พ.ศ.2567 เวลา 14:41:12
วันพระอาทิตย์อาบผิวกายระยอง

วันนี้เป็นวันที่ครูอารีย์รู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษ เพราะวันนี้เธอมีภารกิจสำคัญ นั่นคือการพานักเรียนชั้น ม.6 ไปตะลุยดินแดนใต้สมุทรกับ พระอภัยมณี

ครูอารีย์ขี่มอเตอร์ไซค์คู่ใจออกจากบ้านตั้งแต่เช้าตรู่ บรรยากาศทะเลระยองยามเช้าช่างงดงามยิ่งนัก แสงแดดอ่อน ๆ สาดส่องกระทบผิวน้ำทะเล ระยิบระยับราวกับเพชรเม็ดงาม ครูอารีย์รู้สึกสดชื่นและเบิกบานใจขึ้นมาทันที

เมื่อมาถึงโรงเรียน ครูอารีย์ก็รีบไปเตรียมความพร้อมสำหรับคาบเรียนทันที เธอหยิบบทประพันธ์เรื่องพระอภัยมณีมาอ่านท่องให้คล่องปาก จากนั้นก็เตรียมอุปกรณ์ประกอบการสอนต่าง ๆ เช่น แผนที่ใต้สมุทร ภาพวาดนางเงือก ภาพวาดเกาะแก้วพิสดาร เป็นต้น

เมื่อถึงเวลาเรียน ครูอารีย์ก็เริ่มเล่าเรื่องพระอภัยมณีให้นักเรียนฟังอย่างสนุกสนาน เธอใช้น้ำเสียงที่ไพเราะและลีลาท่าทางที่มีชีวิตชีวา ทำให้นักเรียนรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในเหตุการณ์จริง ๆ ครูอารีย์เล่าถึงเรื่องราวของพระอภัยมณีตั้งแต่ต้นจนจบ พานักเรียนไปสัมผัสกับโลกใต้สมุทรอันแสนมหัศจรรย์ พบกับนางเงือกที่งดงามราวกับนางฟ้า พบกับเกาะแก้วพิสดารที่วิจิตรตระการตา

ระหว่างที่เล่าเรื่อง ครูอารีย์ก็แทรกคำถามและกิจกรรมให้นักเรียนมีส่วนร่วมอยู่เสมอ ทำให้นักเรียนรู้สึกสนุกสนานและมีส่วนร่วมในการเรียนมากขึ้น นักเรียนต่างก็กระตือรือร้นที่จะตอบคำถามและร่วมแสดงความคิดเห็น ครูอารีย์รู้สึกดีใจที่เห็นนักเรียนสนใจในวรรณคดีไทยมากขึ้น

เมื่อจบคาบเรียน ครูอารีย์รู้สึกเหนื่อยล้าเล็กน้อย แต่เธอก็รู้สึกมีความสุขมากที่ได้สอนหนังสือและได้เห็นรอยยิ้มของนักเรียน ครูอารีย์เชื่อว่าการเล่าเรื่องวรรณคดีไทยให้สนุกสนานและน่าตื่นเต้น จะช่วยให้นักเรียนเกิดความรักและเข้าใจวรรณคดีไทยมากขึ้น

หลังจากเลิกเรียน ครูอารีย์ก็กลับบ้านไปทานอาหารเย็นกับครอบครัว เธอทานแกงส้มผักกระชับ ซึ่งเป็นอาหารโปรดของเธอ แกงส้มรสเปรี้ยวหวานกำลังดี ผักกระชับก็กรอบอร่อยมาก ครูอารีย์รู้สึกอิ่มท้องและมีความสุขมาก

ก่อนเข้านอน ครูอารีย์ก็นึกถึงคาบเรียนในวันนี้ เธอรู้สึกประทับใจที่นักเรียนตั้งใจเรียนและมีส่วนร่วมในการเรียนมาก เธอตั้งใจว่าวันพรุ่งนี้เธอจะเตรียมการสอนให้สนุกสนานและน่าสนใจยิ่งขึ้นไปอีก เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้วรรณคดีไทยอย่างมีความสุข

ครูอารีย์เชื่อว่าการเล่าเรื่องวรรณคดีไทยให้สนุกสนานและน่าตื่นเต้น จะช่วยให้นักเรียนเกิดความรักและเข้าใจวรรณคดีไทยมากขึ้น ครูอารีย์จะทำหน้าที่ของเธอต่อไปอย่างเต็มความสามารถ เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้และซึมซับคุณค่าของวรรณคดีไทย
โดย : ครูอารีย์    ไอพี : 101.109.239.236


ความคิดเห็นที่ 3
จันทร์ ที่ 15 เดือน มกราคม พ.ศ.2567 เวลา 14:45:04
อรุณส่องระยองวันนี้แปร๊ดจ้า! แต่วาบกว่าแดดคือความตื่นเต้นของครูอารีย์ เพราะวันนี้ไม่ใช่แค่สอนหนังสือธรรมดา แต่ต้องออกเดินทางไกล ขึ้นกรุงเทพฯ ไปถึง กระทรวงศึกษาธิการ เลยนะ!

ขี่มอเตอร์ไซค์คู่ใจคันเก่าออกจากหน้าวัดลาวา ลมทะเลโกรกเย็นสบาย ปลุกความสดชื่นให้ตื่นตัว สูดอากาศทะเลให้เต็มปอด เตรียมพร้อมลุยภารกิจ เดี๋ยวถึงกรุงเทพฯ ค่อยสู้กับรถติดทีหลัง (หัวเราะ)

ถึงโรงเรียน รีบจัดการงานประจำวัน ซ้อมสั้นซ้อมสรุปบทพูดกับอาจารย์ใหญ่ ย้ำเตือนลูกศิษย์ ม.6 ชุดที่จะไปด้วย ให้อยู่ในกรอบ ไหว้สวย ๆ พูดจาฉะฉาน อย่าให้ครูอารีย์หน้าแตกนะ!

ขึ้นรถตู้ ล้อหมุนปุ๊บ บ่นปวดหลังกับแอร์เย็นฉ่ำปั๊บ (โถ่! แก่แล้วนี่นา) แต่ความตื่นเต้นก็กลบความไม่สบายไปหมด คิดถึงสมัยหนุ่ม ๆ ที่เคยฝึกงานที่กระทรวง นึกถึงวิมานการศึกษาที่เราจะไปเยือนวันนี้

ผ่านรถติด ตึกสูง บอกเลย กรุงเทพฯ ไม่เคยเปลี่ยน ไหน ๆ มาถึงแล้ว ต้องหาอะไรอร่อย ๆ รองท้องหน่อย ร้าน "ไก่ต้มกระวาน" ข้างกระทรวงนี่สิ เด็ดจริง! ซดน้ำร้อน ๆ หอมกระวาน เนื้อไก่นุ่มลิ้น รู้สึกมีพลังพร้อมลุย!

ถึงกระทรวงฯ โห... ใหญ่โตโอฬาร สวยงามสมชื่อจริง ๆ อาคารกระจกสะท้อนแสงแดด กลัว ๆ กล้า ๆ เดินตามอาจารย์ใหญ่ ชักเกรงใจบรรยากาศเคร่งขรึม

แต่ไม่นาน ความเกรงใจก็หายไปหมด เมื่อได้เข้าห้องประชุม เจอเจ้าหน้าที่กระทรวงฯ ยิ้มแย้ม สอบถามไถ่ทอด ตื่นเต้นกับโปรเจกต์สอนวรรณคดีไทยผ่านละครเวทีของลูกศิษย์ ม.6 ที่ครูอารีย์นำเสนอ เฮ้ย! เขาสนใจโปรเจกต์เราจริง ๆ นะ!

ชั่วโมงผ่านไปไวเหมือนโกหก คำถาม คำแนะนำ จากทีมกระทรวงฯ มากมาย บอกเลย ครูอารีย์ได้ไอเดียเพียบ! กลับระยองไปนี่ ขัดเกลาโปรเจกต์ของลูกศิษย์ให้ปังกว่าเดิมแน่ ๆ

นั่งรถตู้กลับ ระยะทางเหมือนจะสั้นลง ครั้งนี้ไม่มีบ่นปวดหลัง แค่คิดถึงแววตาตื่นเต้นของลูกศิษย์ คิดถึงโอกาสทองที่ได้รับ แรงบันดาลใจก็พุ่งพล่าน

ถึงโรงเรียน เด็ก ๆ ส่งข่าวดีมาทันที ว่าครูใหญ่ประกาศให้โปรเจกต์ของพวกเขาไปแข่งระดับภาคตะวันออก! ครูอารีย์น้ำตาซึมเลยนะ นี่แหละผลตอบแทนที่ดีที่สุด เห็นเด็ก ๆ รักภาษา รักวรรณคดี แค่นี้ก็หายเหนื่อยแล้ว

คืนนี้ กลับบ้านพร้อมรอยยิ้ม ปลาทอดใส่แกงเลียงฝีมือแม่ อร่อยซึมซาบถึงใจ นอนกอดความฝัน พรุ่งนี้ลุยต่อ! เตรียมสอนวรรณคดีให้สนุกสนาน ยิ่งกว่านั่งรถไฟเหาะ ช่วยผลักดันฝันของลูกศิษย์ให้ไปให้ถึงฝั่ง!

เอ้า! นอนเร็ว ๆ พรุ่งนี้ครูอารีย์มีภารกิจใหญ่ ร่ายมนต์วรรณคดี ปลุกวิญญาณกวีรุ่นใหม่ รออยู่!
โดย : ครูอารีย์    ไอพี : 101.109.239.236





Re หัวข้อ :
รูปประกอบ : Limit 100 kB
ไอคอน : ย่อหน้า จัดซ้าย จัดกลาง จัดขวา ตัวหนา ตัวเอียง เส้นใต้ ตัวยก ตัวห้อย ตัวหนังสือเรืองแสง ตัวหนังสือมีเงา สีแดง สีเขียว สีน้ำเงิน สีส้ม สีชมพู สีเทา
อ้างอิงคำพูด เพิ่มเพลง เพิ่มวีดีโอคลิป เพิ่มรูปภาพ เพิ่มไฟล์ Flash เพิ่มลิงก์ เพิ่มอีเมล์
รายละเอียด :
ใส่รหัสที่ท่านเห็นลงในช่องนี้
ชื่อของท่าน :


 
สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดระยอง
146 หมู่ 2 ถนนสุขุมวิท ตำบลเนินพระ อำเภอเมือง  จังหวัดระยอง 0-3861-7317 0-3861-6262  0-3861-6421
โทรสาร  0-3861-3662 
nferayong@hotmail.com  nferayong@gmail.com
Powered by MAXSITE 1.10   Modify by   นิกร เกษโกมล   Version 2.05